
ความชื้นภายนอกห้องน่ากลัวตรงไหน
ส่วนอื่นๆ ที่โดนน้ำไม่ได้ก็เช่น ตามขั่วไฟต่างๆ แคปสตาร์ท แคปรัน แมกเนติก ฯลฯ พวกนี้โดนน้ำแล้ว ถ้าหากมีกระแสไฟอยู่ก็จะช็อตเสียหายได้ แม้แต่ตอนปิดเครื่องสำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ใช้แอร์ในหน้าฝน ก็อาจทำให้เป็นสนิมกิน หรือคราบเกาะ ซึ่งพวกนี้เป็นสาเหตุของปัญหาอื่นๆ ตามมา
ความชื้นภายในห้องก็อันตรายไม่แพ้กัน เพราะเมื่อแอร์ทำงาน อากาศจะหมุนด้วยพัดลมกรงกระรอก ผ่านแผ่นกรอง แผ่นกรองจะทำหน้าที่กรองฝุ่นต่างๆ ในระดับหนึ่ง ความชื้นภายในห้องจะถูกควบแน่นกลายเป็นหยดน้ำตามฟินที่คอยล์เย็น ตกใส่รางน้ำทิ้ง น้ำจะไหลผ่านท่อน้ำทิ้งออกไปด้านนอก ซึ่งทั้งแผ่นกรอง รางน้ำทิ้ง ท่อน้ำทิ้ง พวกนี้นี่เอง ที่จะเก็บความชื้นส่วนหนึ่งเอาไว้ด้วย
**เพราะความชื้นในหน้าฝนมีสูง แอร์จะควบแน่นความชื้นเป็นหยดน้ำมากกว่าฤดูอื่น ทำให้มีปริมาณน้ำทิ้งมากกว่าปกติ
เมื่อแผ่นกรอง รางน้ำทิ้ง ท่อน้ำทิ้ง มีความชื้นจากการระบายน้ำไม่หมด จึงทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราเติบโตได้ดี และเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น โรคเกี่ยวกับปอด หรือระบบทางเดินหายใจ
อาการไฟตก ไฟดับ หรือฟ้าผ่าที่มาพร้อมกับหน้าฝน
โดยปกติแล้ว การติดตั้งแอร์ทุกเครื่องจะมีการต่อสายดิน และแยกเบรกเกอร์ (circuit breaker ) ของแอร์ไว้กับ ระบบไฟอื่น (เพราะแอร์กินกระแสไฟมาก เมื่อคอมเพรสเซอร์เริ่มสตาร์ท) หากฟ้าผ่า จะช่วยป้องกันกระแสเกินได้อยู่ แต่สำหรับใครที่ไม่มีสองชุดนี้ ต้องคอยระวังด้วยหากเกิดไฟดับ ไฟตก ให้สับเบรกเกอร์เพื่อป้องกันกระแสไฟเกินเมื่อไฟมา แอร์บางรุ่น จะไม่หยุดการทำงานเมื่อไฟดับ (อธิบาย แอร์เปิดระบบไฟพร้อมทำงาน) เมื่อไฟมาอีกครั้ง กระแสไฟฟ้าจะไหลเข้าแอร์ทันที และหากโชคร้ายกระแสที่มาเกิดมีแรงดันสูงกว่าปกติ จะทำให้อุปกรณ์ภายในแอร์ ไม่ว่าจะเป็น แผงบอร์ด มอเตอร์ ทั้งตัวที่ด้านในและตัวที่อยู่ด้านนอก มี “โอกาส” เสียหายได้หากบ้านใดไม่ค่อยมีเหตุต่างๆ เหล่านี้ ก็หมั่นเช็คล้าง ทำความสะอาดได้เหมือนกันนะ
บทความโดย Zx Anonymous
ลิขสิทธิ์บทความ http://www.บ้านแอร์.com